RSS

เคยงงกันไหมว่าสัญลักษณ์ +R หรือ ?R บนแผ่น DVD หมายถึงอะไร

24 มิ.ย.

วันนี้เรามีวิธีเลือกซื้อแผ่นดีวีดีสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์มาฝากชาวมหานครแห่งความคิดของคนไอทีกัน เพราะเดี๋ยวนี้ราคาเครื่องบันทึกแผ่นดีวีดี หรือ DVD Writer ไม่ค่อยแพงแล้ว แถมราคาแผ่นยังอยู่ที่ประมาณแค่สิบกว่าถึงยี่สิบบาทเท่านั้น แต่ให้ความจุที่มากกว่าแผ่นซีดีทั่วไปถึงเกือบ 7 เท่า คืออย่างต่ำๆ ก็ประมาณ 4.7 กิกะไบต์นั่นละค่ะ เวลาบันทึกไฟล์วิดีโอก็ทำได้ในระดับที่ความละเอียดสูง ก็เลยมีคนนิยมใช้กันมากขึ้น

แต่ทุกๆคนทราบกันไหมว่าแผ่นดีวีดีที่วางขายอยู่ทั่วไปนั้น มีทั้งแบบบวก แบบลบ มีทั้งแบบ R และ RW เผลอๆ ไปเจอแบบ DL ด้วย ถ้าฟังแล้วงงล่ะก็ วันนี้เราจะมาเฉลยให้ทราบกัน
ที่มีแผ่นหลายชนิดก็ปัญหาเดียวกันกับ HD-DVD และ Blu-ray คือ มีหลายค่ายแข่งกันผลิตออกมา ทะเลาะกันมาหลายปีจนมาลงตัวเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ค่ายแรกก็คือ DVD Forum ที่พัฒนาแผ่น DVD-R และ DVD-RW ซึ่งแผ่นตระกูล -R นั้นเล่นได้ดีกับเครื่องเล่นดีวีดีตามบ้านเราทั่วไปแต่เขียนได้ครั้งเดียวและบันทึกซ้ำบนพื้นที่เดิมไม่ได้ ส่วนแบบ -RW นั้น เราสามารถสั่งล้างแผ่นแล้วเขียนข้อมูลลงไปซ้ำได้กว่า 1,000 ครั้งเลยล่ะ

อีกมาตรฐานหนึ่งที่ใกล้เคียงกันก็คือ DVD+R และ DVD+RW จากทางกลุ่ม DVD+RW Alliance ฝั่งนี้ก็ให้ความจุมาตรฐานที่ 4.7 กิกะไบต์เท่ากับ -R หรือ -RW แต่ใช้เทคโนโลยีในการบันทึกข้อมูลลงแผ่นที่ต่างออกไป ว่ากันว่ามีสามารถบันทึกข้อมูลได้แม่นยำกว่าในระดับความเร็วสูงๆ และมีระบบตรวจจับความผิดพลาดที่ดีกว่า แต่ถ้าเทียบอายุแล้วถือว่าอ่อนกว่าแผ่นดีวีดีตระกูลลบ

นั่นก็เลยทำให้เครื่องเล่นดีวีดีตามบ้านเรารุ่นเก่าๆส่วนใหญ่จะเล่นได้เฉพาะแผ่นที่เป็น -R เท่านั้น แต่สำหรับคนที่ใช้พีซีนั้นเดี๋ยวนี้ไดรฟ์ดีวีดีมักจะเป็นแบบ Super Multi ที่ทั้งเขียนและอ่านได้ทั้งแผ่น DVD-R/-RW และ DVD+R/+RW ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเลือกแผ่น

นอกจากนี้ยังมีแผ่นอีกแบบนึงที่เรียกว่า DL หรือ Dual Layer ซึ่งก็ให้ความจุเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เป็น 8.5 กิกะไบต์ โดยอาศัยการสร้างชั้นสำหรับบันทึกข้อมูลเพิ่มขึ้นมาซ้อนกันอีกหนึ่งชั้น และยังมีแผ่นประเภท Double Side หรือแผ่นแบบกลับใช้ได้ทั้ง 2 หน้าด้วย แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมซักเท่าไหร่

ส่วนเวลาเลือกซื้อนั้น เดี๋ยวนี้จะใช้แผ่น – หรือ + ก็คงไม่ค่อยมีปัญหาถ้าเครื่องเล่นดีวีดีของคุณไม่ใช่รุ่นเก่ามาก แต่สังเกตกันไว้ซักนิดก็คงไม่เสียหาย อีกเรื่องนึงก็คือ ความเร็ว แผ่นพวกนี้จะมีความเร็วสูงสุดในการเขียนแผ่นติดมาให้ด้วย เช่น 4X, 8X, 12X เป็นต้น ยิ่งแผ่นที่เขียนได้เร็ว ก็ยิ่งมีราคาสูง และก็แน่นอนว่า มีโอกาสเกิดความผิดพลาดของข้อมูลได้ง่ายขึ้นด้วย
ฉะนั้นขอแนะนำว่าถ้าจะบันทึกอะไรสำคัญๆ ก็เขียนที่ความเร็วต่ำๆ ตั้งแต่ 4-8 เท่า ก็พอ ส่วนราคาของแผ่นดีวีดีที่บางทีราคาแตกต่างกันค่อนข้างเยอะ ทั้งๆ ที่เป็นแผ่นประเภทเดียวกันนั้น อันนี้ก็อยู่ที่กระบวนการผลิตและเกรดของแผ่น ซึ่งก็ส่งผลต่อความทนทานของแผ่นด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าแผ่นเกรด B ราคาแผ่นละสิบบาทจะใช้ไม่ได้นะพอไหวเหมือนกัน ………….

 
ใส่ความเห็น

Posted by บน มิถุนายน 24, 2008 นิ้ว Computer

 

ป้ายกำกับ: ,

ใส่ความเห็น